เป็นเหมือนธรรมเนียมไปแล้วที่ก่อนจะมีกล้องรุ่นใดลงสู่ตลาดก็ต้องมีข่าวปล่อย ข่าวโคมลอย ข่าวลือ และสารพัดจะข่าว แต่ก็เหอะ ในที่สุดกล้องหนอนตัวใหม่ก็ได้ฤกษ์เบิกโรงกันในช่วงต้นเดือนเพื่อย้ำว่าอย่าใช้จ่ายกันจนเพลินล่ะ สิ้นเดือนนี้จะออกมาขายแล้วนะ!
ดูจากสเปคแล้วต้องยอมรับว่าน่าตื่นเต้นเร้าใจอยู่พอสมควรกับ EOS70D รุ่นล่า ส่งลงสนามแทนรุ่นพี่ 60D ที่หลายคนบอกว่ายังไม่ฟิน แล้วเจ้าตัวใหม่นี้จะฟินหรือเปล่า? มาดูกันเลย…
EOS70D จัดเป็นกล้อง DSLR ระดับกลาง จะบนก็ไม่ใช่จะล่างก็ไม่เชิง เป็นตัวอุดช่องระหว่าง EOS7D และ EOS700D หน้าตาก็คล้ายคลึงกับ 60D มากเสียจนแทบแยกไม่ออก แต่ข้างในชูประเด็นเอาไว้สวยหรูว่าใช้เซนเซอร์รับภาพแบบใหม่ “Dual Pixel CMOS AF” ซึ่งเป็น DSLR ตัวแรกของโลกที่ใช้ระบบนี้และ Canon ก็คุยเอาไว้ว่ามันจะทำให้การจับโฟกัสอัตโนมัติของวีดีโอและ Live View พุ่งทะยานมากกว่าเดิม ซึ่งระบบออโตโฟกัสของเจ้าตัวนี้ยกชุดมาจาก EOS7D ที่เร็วเป็นจรวด แถมด้วยไปหยิบเอาจอ Touchscreen มาจาก EOS700D แค่นั้นยังไม่พอ คว้าเอาระบบ Wi-fi มาจาก EOS6D อีกต่างหาก…โห!
• ระบบหลัก
เซนเซอร์รับภาพแบบ CMOS ความละเอียด 20.2MP ตัวใหม่เอี่ยมถอดด้าม “Dual Pixel CMOS AF” มีการแบ่งแต่ละพิกเซลออกเป็นโฟโต้ไดโอทสองตัว (ชาวบ้านมีแค่ตัวเดียวในแต่ละพิกเซล) เพื่อรองรับระบบ Phase Detection แบบบนเซนเซอร์ให้ช่วยกันคิดช่วยกันจับโฟกัส ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะจับโฟกัสได้รวดเร็วกว่าชนิด Contrast Detection อยู่แล้ว แต่เหตุผลหลักที่เขาพากันแห่มาหาระบบนี้ก็เพราะว่ามันเหมาะกับการจับโฟกัสให้งานวีดีโอมากกว่างานภาพนิ่งเพราะวีดีโอต้องทำงานร่วมกับเซนเซอร์โดยตรง (แต่ภาพนิ่งไม่ใช่เว้นเสียแต่ว่าจะใช้ระบบ Live View ซึ่งต้องอาศัยการจับโฟกัสบนเซนเซอร์รับภาพโดยตรง) โดยเฉพาะระดับ Full HD นั้นต้องว่องไวกันนิดนึง ก็เลยได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นทั้งภาพนิ่งและงานวีดีโอ เพราะฉะนั้นเจ้าของกล้องก็รับเอาข้อดีนี้ไป ส่วนค่ายกล้องก็รับเงินกันไป
ระบบออโตโฟกัสยกชุดมาจาก EOS7D แบบเซนเซอร์ 19 จุด ซึ่งทุกจุดจะเป็นแบบ Crosstype ทั้งหมด เซนเซอร์แบบนี้จะตรวจหาโฟกัสได้แม่นยำและรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด ยากที่อะไรจะเล็ดลอดผ่านหูผ่านตามันไปได้ง่ายๆ
EOS60D แทบจะเขย่าบัลลังก์ 7D ได้เลย เพราะมันถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุดถึง 7 ภาพต่อวินาที กดแช่ได้ถึง 65 ภาพแบบ JPEG และ 16 ภาพแบบ RAW แต่คุณต้องใช้การ์ด SD แบบ UHS-I นะถึงจะกดแช่ได้เยอะขนาดนั้น
ค่า ISO แบบปกติอยู่ที่ 100-12800 ขยายได้ถึง 25600 อันนี้ดูจะด้อยไปหน่อย แต่ก็อย่างว่า เดี๋ยวจะกระทบตัวบนมากเกินไป
เสียดายที่ช่องมองภาพเห็นพื้นที่แค่ 98% ไม่ถึง 100% แบบ 7D ก็คงต้องดูแลพวกเสี้ยนภาพที่จะโผล่มาตามมุมตามขอบกันต่อไป แต่เอาเถอะ เหลืออะไรไว้ให้รุ่นบนๆ เค้าบ้างเถอะน่า
ทั้งหมดนี้ควบคุมด้วย Digic 5 โปรเซสเซอร์ที่ Canon ภูมิใจมาก
• ยืนล้วงกระเป๋าควบคุมกล้อง
สบายมากสำหรับ 70D เพราะมีระบบ Wi-fi ในตัวเหมือน 6D ที่สามารถสั่งการกล้องผ่านระบบไร้สายด้วยสมาร์ทโฟนทั้งหลายแหล่ผ่าน App EOS Remote ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการเปิดรับแสง จับโฟกัส จัดการภาพ และก็แน่ละว่าต้องสั่งถ่ายภาพได้ด้วยอยู่แล้ว
แชร์ภาพทันทีทันควันเลยเหรอ? รับส่งข้อมูลควบคุมกันได้ขนาดนี้ก็ย่อมจะต้องทำได้สบายมาก แต่มันส่งด้วยตัวเองทันทีไม่ได้ ต้องยืมมือสมาร์ทโฟนในการส่งภาพถ่ายออกสู่โลกกว้าง หรือจะพูดอีกอย่างก็คือส่งภาพเข้ามือถือก่อนแล้วค่อยผ่านมือถือส่งออกไปอีกที เพราะฉะนั้นคอยดูแลอย่าให้แบตของโทรศัพท์มือถือหมดก็แล้วกัน!
• จอสัมผัส
จอ LCD แบบพับปรับหมุนได้ อันนี้ก็โดนใจหลายคนที่ชอบมุมแปลกประหลาดพิสดาร แนวขึ้นสูงลงต่ำทำได้แบบเดียวกับรุ่นพี่ 60D แต่คราวนี้เป็นแบบ “ทัชสกรีน” รูดๆ จิ้มๆ ความละเอียดระดับล้านพิกเซล แต่บางคนก็ไม่ชอบเพราะมันจะไปโดนโดยไม่ตั้งใจอยู่บ่อยๆ เวลาที่สะพายกล้อง อันนี้ก็สามารถปิดได้แล้วกลับมาใช้ระบบปุ่มเหมือนเดิม
• แกร่งด้วยเบาด้วย
ตัวกล้องเป็นวัสดุแมกนีเซียมที่ถึงแม้ว่าจะเบากว่าเแต่ก็แข็งแรงกว่าเหล็ก ซึ่งก็เหมือนรุ่นเดิมนั่นแหละ ลุยได้ในระดับนึงเพราะมีซีลกันความชื้นหรือละอองน้ำมาให้ด้วย วิ่งตาม 7D ได้สบายมาก
• ความสามารถอื่นๆ
ที่ชูเป็นประเด็นก็คือระบบ HDR แบบจบในกล้อง ไม่ว่าจะเป็นที่มืดหรือที่สว่างแบบคอนทราสต์สูงๆ ก็จะมีระบบนี้ที่นำเอาภาพสามภาพที่มีค่าการเปิดรับแสงอันแตกต่างมารวมเข้าด้วยกันเพื่อเก็บรายละเอียดในส่วนมืดและสว่างที่มองไม่เห็นในการถ่ายภาพปกติ แต่ถ้ายังไม่สะใจก็เอาภาพที่ต่างค่าการเปิดรับแสงมารวมกันได้สูงสุดถึง 9 ภาพเลยทีเดียว
สั่งงานแฟลชไร้สายเป็นเรื่องที่ทำได้เป็นปกติในกล้องระดับนี้อยู่แล้ว
บันทึกวีดีโอระดับ Full HD 1920x1280px ที่ 30, 25 และ 24 เฟรมต่อวินาที แต่ถ้าอยากสโลว์แบบนิ่มๆ หน่อยก็ได้ระดับ 60 และ 50 ภาพต่อวินาทีที่ขนาด 720p คือระดับ HD เท่านั้น เลือกจุดโฟกัสได้โดยการแตะจากจอทัชสกรีนหรือจะสั่งให้ติดตามการเคลื่อนไหวก็ย่อมได้
• คุณสมบัติหลัก
- เซนเซอร์ CMOS ความละเอียด 20.2px ขนาด APS-C ตัวคูณ 1.6 ควบคุมโดย DIGIC 5
- เซนเซอร์ออโตโฟกัส 19 จุดแบบ Crosstype ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที
- ระบบ Dual Pixel CMOS AF
- มีระบบ Wi-fi ในตัวกล้องเพื่อควบคุมการถ่ายภาพและแชร์ภาพผ่านสมาร์ทโฟน
- ISO สูงสุด 12800 ขยายได้ถึง 25600
- จอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้วแบบปรับองศาได้ ความละเอียดล้านพิกเซล
ราคาขายเปิดตัวที่ต่างประเทศอยู่ที่ $1199 เฉพาะตัวกล้อง คิดคร่าวๆ ก็อยู่ที่ราวๆ สามหมื่นหกพันบาท กับคุณสมบัติตามที่บอกมาก็มองได้หลากหลาย บางคนก็อาจจะมองว่าเป็นราคาที่คุ้มแล้ว แต่บางคนก็อาจจะคิดประมาณว่าเก็บเงินเพิ่มอีกหน่อยขึ้นไปหารุ่นสูงกว่านี้ บางคนก็อาจมองว่าแพง นั่นก็เพราะตอนนี้มีคู่แข่งให้เปรียบมวยเยอะเหลือเกิน (แถมบางตัวก็ยังมีสเปคเฉพาะด้านดีกว่า แต่ค่าตัวถูกกว่าให้คิดมากอีกต่างหาก) สุดท้ายแล้วก็เลยไม่ได้ซื้อซะงั้น
…รอดูตัวจริง ไปจับไปเล่นแล้วคุณถึงจะคิดออกว่ากล้องใหม่ตัวนี้ถูกหรือแพง? ปลายสิงหาคม 2556 นี้!
ข้อมูล EOS 70D จาก Canon อเมริกา
Nextopia
กรกฏาคม 2556
Comments